ทำไมผู้หญิงจึงต้องเป็นโสด?


การเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศ


วันนี้ไม่ว่าสังคมไทยหรือสังคมโลก ต่างก็เปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว นำไปสู่การมีบทบาทของผู้หญิงมากขึ้นในสังคม ผู้หญิงสามารถพึ่งพาตนเองได้ในเรื่องฐานะการเงิน และความมีอิสระในเรื่องการดำเนินชีวิต ...เพราะฉะนั้นหากไม่พบคู่ครองที่ถูกใจก็มีสิทธิ์ที่ผู้หญิงยุคนี้จะตัดสินใจ หรือเลือกที่จะครองตัวเป็นโสดต่อไป
ผู้ชายมีจำนวนน้อยกว่าผู้หญิง

สัดส่วนของผู้ชายและผู้หญิงที่ไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ อาจจะส่งผลต่อการอยู่เป็นโสด สาเหตุสำคัญก็คือการตายของผู้ชายที่มีจำนวนสูงกว่าผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ (15-49 ปี) เป็นการตายที่เกิดจากอุบัติเหตุและโรคเอดส์เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้หญิงมากกว่าจึงทำให้หาคู่ครองได้ยาก อีกเหตุผลหนึ่งเกิดจากผู้ชายชอบใจในเพศเดียวกันเอง หรือในทางกลับกันผู้หญิงก็พิสมัยในเพศเดียวกันสูงขึ้น สัดส่วนในการอยู่เป็นโสดจึงเพิ่มมากขึ้น

ผู้หญิงมีการศึกษาที่สูงขึ้น

เมื่อเทคโนโลยีการศึกษาเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้หญิงมีการศึกษาสูงขึ้น ตำแหน่งหน้าที่การงานของผู้หญิงก็ย่อมสูงตามไปด้วย ผู้หญิงที่มีการศึกษาสูงตั้งมาตรฐานการเลือกคู่ครองไว้สูงเช่นเดียวกัน ซึ่งหากไม่พบผู้ชายที่มีฐานะหรือตำแหน่งที่ทัดเทียมกันก็ขออยู่เป็นโสดดีกว่า

             ผลจากการที่ผู้หญิงไทยของเราอยู่เป็นโสดเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหาแต่ เมื่อผู้หญิงโสดเหล่านี้ย่างเข้าสู่วัยชรา สิ่งที่ตามมาคือไม่มีใครมาคอยห่วงใยและดูแลยามที่เจ็บป่วย








ผู้หญิง 4 แบบ ที่จะครองโสดตลอดชีวิต

1.คุณนายช่างฝัน


         ผู้หญิงบางคนรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เลวเกวตรงไหน อยู่ในระดับดีถึงดีมากด้วยซ้ำ แต่ต้องมานั่งเฉาเหงาเศร้าอยู่คนเดียวก็เพราะหมายสูง นะสิ ตั้งเป้าไว้ว่า ต้องได้ หนุ่มหล่อ มาดดี ขี่รถเบนซ์ เป็นถึงผู้บริหาร หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมีพ่อแม่ ใหญ่โต คับฟ้า มรดกร้อยล้าน สามารถเลี้ยงดูเราได้ตลอดชีวิต ชนิดที่ไม่ต้องกระดิกกระเดี้ย ทำอะไรก็มีกินเหลือเฟือ

2.ทำตัวเป็นสะพาน


       บางครั้งอาการตามืดตามัวด้วยความหลงใหล ก็อาจทำให้เราไม่รู้ตัวว่ากำลังถูก ใช้เป็นสะพานเหยียบเดินข้ามไป หนำซ้ำบางคนยอมให้สนตะพาย ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าเหมือนเป็น โรคจิตอ่อนๆ ไม่เคยจดจำไว้เป็นบทเรียนสอนใจเลยสักครั้ง เรื่องปวดใจก็คือเวลาที่ต้องเสีย ไปกับชะตากรรมทำนองนี้
แต่ละวันเราได้พบเจอะเจอกับผู้คนมากมายที่อาจเป็นคู่ ควงแสนวิเศษได้ แต่ สมองเราไม่รับรู้ จึงพลาดการสานต่อความสัมพันธ์ให้งอกงาม เมื่อวันเวลาผ่านไป แทนที่ จะได้ใช้ชีวิตครองคู่อยู่กับคนที่เรารักและเขารักเรา ก็ต้องลงท้ายนั่งเหงา อยู่คนเดียว เพราะมัวแต่เสียเวลาตาบอดกับคนที่หาประโยชน์จากเราเท ่านั้น

3.ผลัดวันประกันพรุ่ง


          นี่ไม่ใช่การบ้านหรือการทำรายงานส่งเจ้านายจะได้ผัดผ ่อนไปเรื่อยเปื่อย ควรนึกเสมอว่า เวลาไม่คอยท่า ผู้ชายไม่คอยใคร ผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป เหมือนสายน้ำ มัวแต่...เดี๋ยวก่อน...เดี๋ยวก่อน เผลอๆรถด่วนขบวนสุดท้าย วิ่งผ่านไปเข้าป้ายใครแล้วก็ไม่รู้
สาวบางรายชอบหา ข้อแก้ตัว ที่ฟังไม่ขึ้นอย่างเช่น ขอลดน้ำหนักให้ได้สัก สองสามกิโลก่อน ขอจัดบ้านใหม่ให้เรียบร้อย ขอหางานใหม่ก่อน ขอเรียนให้ จบก่อนแล้ว ค่อยมีแฟน ฯลฯ
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องแฟนก็จงรอคอยต่อ ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่อยากครองตัวเป็น โสดไปจนตายควรเริ่มขวนขวายเสียแต่วันนี้ เริ่ม ด้วยการมองย้อนกลับไป ดูสิว่าเราเสีย เวลาไปมากน้อยแค่ไหน แล้วจะตกใจเมื่อพบว่า นี่ไม่ใช่แค่เสีย เวลาแต่ยังเสีย โอกาสดีๆที่ลอยผ่านมาไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง และอาจเป็น คนที่"ใช่"ก็ได้ แทนที่ จะผัดผ่อนต่อไป

4.เป็นโรครักแรกพบขึ้นสมอง


           อาการรักแรกพบเป็นสาเหตุของโรคอกเดาะมานักต่อนัก ชีวิตมิใช่นิยาย หรือภาพยนตร์ที่ พระเอกนางเอกสบตากันปั๊บ ก็ไฟช๊อต ดีกรีความรักพุ่งปรี๊ดทันที จากนั้นก็เกี่ยวก้อย ตระกองกอดกันแนบแน่นท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติคสุดๆ ลงท้ายได้ครองคู่ อยู่ด้วยกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย หากยังดื้อดึงคิดว่า รักแรกพบคือ เรื่องที่เป็นไปได้ จงพิจารณาปัญหาดังต่อไปนี้
ทุกวันเราอาจสบตากับคนเป็นร้อย แต่ยังหาที่ปิ๊งปั๊งไม่ได้สักที หรือถ้า หากบังเอิญสบตากับใครที่ป้ายรถเมล์ ต่างคนต้องแยกย้ายขึ้นรถ คนละคัน จากนั้นก็คงไม่พบกันอีกแล้วชาตินี้ มีคนอีกมากมายที่เชื่อ ในเรื่องรักแรกพบ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะความรักประเภทนี้ มักจบลงด้วยความโศกาจริงๆ




 ที่มา.. นิตยสารบันทึกคุณแม่ มกราคม 2005
http://www.junjaowka.com/webboard/archive/index.php/t-27263.html
http://www.missladyboys.com/webb...c%3D1053
http://www.amulet.in.th/forums/v...1e3b5b6d
http://www.dektriam.net/TopicRea...art%3D30

การ์ตูนสุภาษิตสอนหญิง ตอน วิธีการเอาตัวรอดของสาวๆ ในเมืองกรุง


ที่มา:http://www.roigoo.com/comic-379.html
topicstock.pantip.com
www.roigoo.com/comic-379.html

ปฏิทินของฉัน

เรื่องที่ผู้หญิงควรรู้ก่อนไปวัด

อย่างแรกเลยก่อนไปวัดควร
แต่งตัวให้สุภาพ รัดกุม และมิดชิด กางเกงหรือกระโปรงไม่ควรสั้นจนเกินไป (ถ้ายาวคลุมเข่าได้จะดีมากค่ะ) เสื้อผ้าประเภทสายเดี่ยว เปิดไหล่ หรือคว้านคอซะลึกจนเห็นอะไรต่อมิอะไร อย่างนี้ไม่ควรใส่ไปเลยนะคะ
+ ควรถอดรองเท้าและหมวก ทุกครั้ง ก่อนขึ้นศาลาการเปรียญเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา

+ สําหรับคุณผู้หญิง ควรระวังไม่ให้ตัวเองไปโดนเนื้อตัวของพระสงฆ์โดยเด็ดขาด หากมีความประสงค์อยากจะถวายสิ่งของก็ควรเอาวางไว้บนผ้าที่พระจัดมาให้ค่ะ

+ หากคุณติดนิสัยที่ต้องใส่น้ำหอม ก่อนออกจากบ้าน ก็ควรใส่แต่พองาม ไม่ใช่ตะบี้ตะบันใส่ซะจนคนรอบข้างเขามึนหัว (มาทําบุญนะคะ ไม่ใช่มาเพิ่มบาปให้ตัวเอง)

+ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือการพูดคุยกันในระหว่างที่พระกําลังสวดถ้าหากมีความจําเป็นจะต้องออกจากวัดก่อนเสร็จพิธี ควรลุกออกไปให้เงียบที่สุดและไม่รบกวนผู้อื่น

+ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาแล้ว ควรกราบลาพระสงฆ์ด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้งก่อนกลับบ้าน

โบสถ์
+ ควรกะเวลาให้ไปถึงก่อนที่พิธีในโบสถ์จะเริ่ม เพราะถ้าหากว่าเราไปถึงโบสถ์แบบเส้นยาแดงผ่าแปดแล้วทําตัวล่กๆ วิ่งเข้าไป อาจเป็นการไปรบกวนพิธีเอาได้นะคะ

+ ควรหาที่นั่งแถวๆ ด้านหน้า และเว้นที่ไว้สําหรับคนที่มาสายหรือสมาชิกใหม่ด้วยค่ะ

+ โปรดอย่าลืมว่า โบสถ์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้น ไม่ควรนั่งเม้าท์ หัวร่อต่อกระซิก หรือนั่งหลับ เพราะจะเป็นการแสดงถึงความไม่เคารพต่อสถานที่ค่ะ

+ ควรจําไว้อยู่เสมอว่า คนแปลกหน้าก็คือแขกคนหนึ่งของโบสถ์ ควรจะแสดงความต้อนรับขับสู้ด้วยมารยาทอันงามหากเขาเกิดอยากไปเยี่ยมท่านถึงบ้าน

+ หลังจากรับพรแล้ว อย่ารีบลนลานกลับบ้านประดุจเหมือนว่าบ้านถูกไฟไหม้ ควรจะอยู่ทําการทักทายบรรดาสมาชิกคนอื่นๆ ในโบสถ์ก่อนนะคะ

มัสยิด
+ ควรโทรฯ ไปสอบถามเวลาเปิด-ปิดของมัสยิดก่อน เพราะแต่ละแห่งมีเวลาเปิด-ปิดไม่เหมือนกัน

+ การแต่งตัว สําหรับผู้ชาย ให้หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อยืดหรือเสื้อที่มีรูปภาพและคําพูดบนเสื้อ ควรใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงหลวมๆ ไม่ฟิตมากและถุงเท้าขาว สําหรับผู้หญิง ควรสวมกระโปรงยาวหรือกางเกงขายาวหลวมๆ กับเสื้อแขนยาวหลวมๆ (อย่างน้อยต้องยาวคลุมต้นขานะคะ แต่ถ้ายาวคลุมข้อเท้าได้จะดีมากค่ะ)

+ มัสยิดบางแห่ง ผู้หญิงอาจต้องมีอะไรคลุมหัวด้วย ฉะนั้น คุณควรพกผ้าพันคอยาวๆ ไปเผื่อด้วยนะคะ

+ ไม่ควรแต่งหน้า ฉีดน้ำหอม หรือทาเล็บไปด้วย และพวกเครื่องประดับที่เป็นรูปคนหรือสัตว์ควรถอดไว้ที่บ้านจะดูเหมาะสมกว่าค่ะ
โดย : hatasusuki , 2009-03-04 ,
          iceicy.freeforums.org
         dhammajak.net

รวมเคล็ดลับต่างๆ ที่ผู้หญิงควรรู้เกี่ยวกับความรัก"





ผู้หญิงฉลาดรักย่อมรู้จักผู้ชายในหลายแง่มุม แต่ที่ควรรู้จักคือจิตใจของเธอเอง
รู้จักศักยภาพและคุณค่าในตัวชัดเจน รู้ว่าควรทุ่มเทใจของตัวเองแค่ไหน และสมควรได้รักตอบเพียงใด

รวมเคล็ดลับต่างๆ ที่ผู้หญิงควรรู้บ้าง ดังนี้

1. รู้ว่า… ต้องใช้ชีวิตคุ้มค่า
เมื่อมีคนรัก จงปรับเปลี่ยนเฉพาะในส่วนที่ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น หากคุณเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่าง
กลายเป็น ผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่คุ้นเคย เขาก็จะค่อย ๆ หมดความสนใจในตัวคุณ
ถ้าคุณมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง แล้วใครจะมองเห็นคุณค่าของคุณ


2. รู้ว่า… เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องง่าย
ไม่ว่าคุณจะหลงเสน่ห์เขาแค่ไหน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะดำเนินต่อไปอย่างไร
อย่าลืมว่าคนแปลกหน้าก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงประวัติส่วนตัวเขาจะดี
แต่ที่แน่ ๆ คุณไม่มีโอกาสรู้ว่าเขามีโรคติดต่อทางเพศหรือเปล่า
ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีอะไรกับเขาถ้าคุณยังไม่พร้อมในทุกด้าน เรารู้จักรักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ด้วย


3. รู้ว่า..ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
ถ้าเขาคนนั้นทำให้คุณมีความสุข อบอุ่น หัวเราะได้มีความชอบอะไรเหมือนกันหลายอย่าง
แถมเขายังฉลาด แต่ไม่หล่อเลย คุณสาว ๆ ลองไปเดินสังเกตุตามซูเปอร์มาเก็ตดู
ผู้ชายที่มาซื้อของกับครอบครัวหรือเล่นอยู่กับลูก ๆ ตามชายหาด แฟมิลี่แมนเหล่านี้
หน้าตาอาจจะไม่เหมือนนายแบบในนิตยสารเลยแต่เขานี่แหละที่เหมาะจะเป็นพ่อของลูกคุณ


4. รู้ว่า….ความเป็นเพื่อนยาวนานกว่าความรัก
หากคุณและเขามีปัญหาทะเลาะกันบ่อยๆ ในยามเป็นคนรักกัน
ลองคุยกันแล้วเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้เป็นรักแบบเพื่อน เสียก่อน
เรียนรู้ที่จะคบและศึกษานิสัยใจคอกันไปนาน ๆ
แล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์นั้นไป สู่การเป็นคนรักกัน คู่รักคือมิตรภาพที่ยาวนาน


5. รู้ว่า…ความรักมีปริมาณ 50-50
สิ่งที่คู่รักต้องการ คือ ความรักที่พบกันครึ่งทางมีการให้และรักอย่างสมดุล
ต่างฝ่ายต่างเอาใจใส่ห่วงใยกัน ช่วยเหลือกัน มอบความรักให้อีกฝ่ายเท่าเทียมกัน
ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป


6. รู้ว่า…ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว
ในเรื่องความเป็นส่วนตัว ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่า แค่ไหนและอย่างไร
ควรเปิดเผยเรื่องส่วนตัวต่อกันได้ มากน้อยแค่ไหน แต่ละคนมาจากพื้นฐานไม่เหมือนกัน
ในพื้นที่ส่วนตัวนั้น ควรตกลงกันก่อนที่จะสร้างความสัมพันธ์กับใคร
ควรพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องนี้อยู่เสมอ ในความเป็นจริงของของเขาคือของเขา
ไม่ใช่ของคุณ และ ของของคุณคือของคุณ ไม่ใช่ของเขา


7. รู้ว่า… เราไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้
เหตุผลก็คือ เราไม่สามารถและไม่สมควรที่จะพยายามเปลี่ยนสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ
ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้นอกจากตัวของเขาเอง
เก็บพลังใจกายและเวลาอันมีค่าที่จะสูญเสียไปไว้ให้กับคนที่ต้องการความสัมพันธ์ดีๆ
กับเราดีกว่า หรือทำอะไรก็ได้ร้อยแปดประการที่ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
หากเขาแสดงการไม่ให้เกียรติคุณเขาก็ไม่สมควรที่จะได้รับความรัก
ห่วงใยจากคุณอีก ถ้าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับเราเขาก็จะแย่ลงเรื่อย ๆ


8. รู้ว่า….ความใกล้ชิดร้องขอกันไม่ได้
อยู่ที่ความต้องการและความรับผิดชอบ และความรู้สึกที่สองฝ่ายมีให้กัน
หากคุณต้องการความไว้ใจคุณต้องให้เขาก่อน
และหากคุณต้องการความใกล้ชิดคุณต้องลองเป็นฝ่ายมีเวลาให้เขาก่อน


9. รู้ว่า….งานบ้านไม่ใช่เฉพาะของผู้หญิงฝ่ายเดียว
ความสัมพันธ์จะยืดยาวต้องอาศัยคนสองคนมีบทบาทร่วมกัน ปัจจุบันผู้หญิงไม่ได้ถูกจำกัดให้
ทำงานอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ต้องรู้วิธีแบ่งงานในบ้านให้ร่วมกันทำได้ทั้งสองฝ่าย
โดยที่ไม่เสียความรู้สึก และผู้ชายที่ทำงานบ้านเป็น เป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด


10. รู้ว่า…เป็นคนรักต่างกับคนรับใช้
จริงแล้วผู้ชายที่มีความรับผิดชอบดี เขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่อ่อนแอและเป็นเบี้ยล่างให้เขา
ตลอดเวลาหรือเกรงใจผู้อื่นจนปฏิเสธใครไม่เป็น เราต้องรู้จักปฏิเสธและโต้กลับบ้าง
การปฏิเสธข้อเรียกร้องของคนอื่นบ้างไม่ใช่เรื่องหยาบคาย


11. รู้ว่า…การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว
ใบทะเบียนสมรสไม่ใช่สิ่งที่จะรับรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะอยู่กันตลอดรอดฝั่งแต่การแต่งงานนั้น
เป็น”งาน”จริง ๆ งานที่ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ ต้องทำความตกลงกันในหลายเรื่อง
อาศัยการประนีประนอมและหมายถึงการใช้ชีวิตซ้ำๆ
ในแต่ละวันกับมนุษย์คนเดิมซึ่งเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องได้ดั่งใจคุณทุกอย่าง
ไม่จำเป็นต้องรู้สึกหรือมีความคิดเห็นเหมือนคุณทุกเรื่องและชีวิตคู่
ไม่ต้องโรแมนติกตลอดเวลาก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้


12. รู้ว่า….ไม่ควรประจานข้อบกพร่องของตัวเองให้เขาฟัง
ทุกคนย่อมมีข้อเสียหรือนิสัยแย่ๆ กันทั้งนั้น แต่ๆๆๆ ก็ไม่ต้องไม่แฉทั้งหมดว่า
เรามีข้อเสียอะไรบ้าง เดี๋ยวพาลจะโบกมือบ๊าย บายกันไปซะก่อนจะได้คบกัน..
และแน่นอนหนุ่มๆ ของคุณก็มีข้อเสียเช่นกัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณทั้งคู่จะปรับตัว ปรับใจ
ยอมรับนิสัยแย่ๆ ได้มั้ย ถ้าไม่ก็คงต้องเซย์กู้ดบายกันหละคราวนี้


13. รู้ว่า… ต้องไม่เป็นหนังสือที่อ่านง่ายสำหรับเขา
คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า " อะไรที่ได้มาอย่าง ง่ายๆ มันก็ไปง่ายๆ ได้เช่นกัน
หรือดูไม่มีคุณค่าให้รักษานั่นเอง


14. รู้ว่า… ผู้ชายไม่ใช่ซูเปอร์แมน เขาเองก็อ่อนแอและท้อแท้เป็น
ใครว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น..อันนี้เราต้องเขาใจนะคะ แม้เขาจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าผู้หญิง
เราแต่ก็ก็มีสิทธิ์ใจปลาซิวได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าคาดหวังว่า
ทุกๆ เรื่องผู้ชายของคุณจะเก่งไปซะทุกเรื่อง..เผลอๆ บางเรื่องผู้หญิงเราทำได้ดีกว่าเขาซะอีก


15. รู้ว่า… อย่าเรียกร้องความเท่าเทียมจากผู้ชาย ถ้าเรายังดูแลตัวเองไม่ได้
หากคุณยังไม่มีความเข้มแข็งพอ หรือดูแลตัวเองยังไม่ได้
แล้วอย่างนี้เราจะมีสิทธิ์อะไรไปต่อกรกับผู้ชายแมนๆ เขาได้ ดีไม่ดีจะโดนดูถูกเอาด้วยนะ

ที่มา: F/W Mail
http://www.tvpool.co.th/newdetai...id%3D590
http://women.sanook.com/%25E0%25...049.html

แนะนำตัว

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ขื่อนางสาวปิยกาญจน์ วัฒพจน์ ชื่อเล่น นุช
รหัสนิสิต 50011313292
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
สาขา บริหารรัฐกกิจและกิจการสาธารณะ
ระบบ ปกติ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ที่อยู่ 167 หมู่ 8 ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

ผู้หญิงควรรู้ - เกี่ยวกับช่องคลอดที่หมวด
ผู้หญิงกับการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องคู่กัน ความรู้สึกสบายในจุดสงวนก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ และผู้หญิงทุกคนควรใส่ใจและรู้จักดี...

มี 20 ข้อเกี่ยวกับช่องคลอดที่ผู้หญิงควรรรู้มาฝากกัน ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนเจอกันเป็นประจำอยู่แล้ว...

1.ร่างกายจะสร้างช่องคลอดขึ้นสี่เดือนก่อนหน้าคุณเกิด ทารกในครรภ์ทุกคนจะมีเนื้อเยื่ออวัยวะเพศ ซึ่งต่อมาจะพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นอวัยวะเพศหญิง หรือเพศชาย เมื่อทารกในครรภ์มีอายุได้ 10 สัปดาห์ ถ้าหากว่าดีเอ็นเอ ระบุว่า เป็นทารกเพศชาย ร่างกายก็จะเริ่มสร้างองคชาตและลูกอัณฑะขึ้น “แต่ถ้าหากว่าเป็นทารกเพศหญิง ช่องคลอดก็จะเริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่าง”

2. เยื่อพรหมจารีอาจไม่มีทุกคน ถ้าหากตอนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกคุณไม่มีเลือดออก เป็นไปได้ว่าเยื่อพรหมจารีของคุณอาจขาดตอนเล่นกีฬา หรือตอนสอดใส่แทมพอน หรือไม่อย่างนั้นก็อาจแปลว่าคุณเกิดมาโดยไม่มีเยื่อพรหมจารีก็เป็นได้ และที่แปลกยิ่งกว่านี้ ก็คือ ผู้หญิงบางคนอาจมีเยื่อพรหมจารีหนามากเสียจนกระทั่งต้องผ่าตัดเอาออก จึงจะสามารถมีเพศสัมพันธ์หรือสอดแทมพอน (ผ้าอนามัยชนิดสอด) ได้

3.ช่วงหนึ่งนิ้วแรก คือ ช่วงที่มีความรู้สึกได้ไวที่สุด แม้ว่าช่วงสองนิ้วที่อยู่ลึกเข้าไปจะคือบริเวณที่สามารถรับความรู้สึกได้เข้มข้นที่สุด แต่บริเวณช่วงหนึ่งนิ้วแรกที่อยู่ตอนปลายของช่องคลอด จะรับความรู้สึกพึงพอใจได้ดีที่สุด "บริเวณนี้คือบริเวณอันเป็นที่รวมของปลายประสาท”

4.ช่องคลอดคือส่วนหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น ผู้หญิงจำนวนมากนึกว่าช่องคลอด หมายถึงอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งหมด “แม้ว่าปุ่มคลิตอริส แคมนอก และท่อปัสสาวะ จะอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณหนึ่งนิ้ว แต่ทั้งหมดคืออวัยวะคนละส่วนกัน” ถ้าเช่นนั้นช่องคลอดคืออะไรกันแน่ ช่องคลอดคืออวัยวะที่มีลักษณะเป็นท่อ เป็นกล้ามเนื้อ และมีความชุ่มชื้น จุดเริ่มต้นคือจากบริเวณแคมในยื่นลงมาในอุ้งเชิงกรานเป็นระยะประมาณสามนิ้ว ส่วนปลายที่อยู่ปากมดลูก (ช่องแคบๆ ที่นำไปสู่ท่อปัสสาวะ) หน้าที่ของช่องคลอดคือเพื่อให้ความสุขทางเพศ เป็นช่องทางที่เลือดประจำเดือนไหลออกและเป็นเส้นทางให้กำเนิดทารก

5.บางคนอาจมีน้ำหล่อลื่นมาก แต่บางคนก็อาจมีน้อย เวลาที่คุณมีอารมณ์ทางเพศ ผนังช่องคลอดจะรู้สึกร้อนและมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมา ผู้หญิงบางคนจะมีน้ำหล่อลื่นมากจนถึงกับเปียกแฉะ แต่บางคนก็เพียงรู้สึกชื้นๆเท่านั้น

6.บริเวณช่องคลอดมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก แบคทีเรียที่ว่า คือ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ เพราะมันช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ มีแบคทีเรียประมาณ 15 ชนิดด้วยกันที่อาศัยอยู่ในช่องคลอด และช่วยทำให้ช่องคลอดมีสภาวะเป็นกรด ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายไม่สามารถเจริญเติบโตได้

7.ปุ่มกระสันอยู่ลึกเข้าไปข้างใน ลึกเข้าไปในช่องคลอดประมาณหนึ่งนิ้ว คือจุดที่เรียกว่า “จีสปอต”

8.สองด้านของอวัยวะเพศอาจไม่เท่ากัน เหมือนๆ กับเต้านม ซึ่งข้างหนึ่งอาจใหญ่กว่าอีกข้าง อวัยวะเพศก็เช่นกัน “ขนาดของคุณอาจไม่เท่ากัน แต่ขอให้รู้ว่าเรื่องนี้ปกติอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ขนาดและรูปทรงของอวัยวะไม่มีผลต่อสุขภาพใดๆ ทั้งสิ้น”

9.อาจใช้ศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะได้ ศัลยกรรมตกแต่งอาจปรับแต่งขนาดของช่องคลอดให้เล็กลง กระชับขึ้น หรือตกแต่งขนาดของอวัยวะเพศให้ดูสมดุลขึ้นได้ ศัลยกรรมประเภทนี้เรียกว่า Labiaplasty แพทย์จะใช้มีดผ่าตัด หรือใช้เลเซอร์ตกแต่งขนาดของอวัยวะให้มีความสมดุล ด้วยเหตุที่ศัลยกรรมลักษณะนี้ คือ ศัลยกรรมเสริมสวย สูติ-นรีแพทย์จึงไม่แนะนำให้ทำ ส่วนศัลยกรรมอีกประเภทเรียกว่า Vaginoplasty ศัลยกรรมประเภทนี้จะช่วยตกแต่งช่องคลอดที่หลวม เพราะคลอดบุตรหลายคนให้แคบและกระชับขึ้น สูติ-นรีแพทย์ กล่าวว่า ศัลยกรรมประเภทหลังนี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ช่องคลอดหลวมมาก และใช้เงินค่อนข้างสูง

10.จำเป็นจะต้องได้รับอากาศบริสุทธิ์ เหมือนๆ กับส่วนอื่นของร่างกาย ช่องคลอดก็ต้องการอากาศบริสุทธิ์เช่นกัน “ถ้าหากว่านุ่งกางเกงยีนส์ที่คับเกินไป หรือชุดชั้นในที่ทำจากใยสังเคราะห์ อากาศจะถ่ายเทไม่ได้ เพราะฉะนั้นเหงื่อไคลตลอดจนมูกต่างๆ จะอบอยู่ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย”

11.อาจคันได้ การที่ผิวหนังแห้ง หรือมีเหงื่อออก หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่คับเกินไป อาจทำให้เกิดอาการคันขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากว่าอาการคันนั้นรุนแรงและคันอยู่นานเกินกว่าหนึ่งวัน หรือคันภายในช่องคลอด ก็เป็นไปได้ว่า อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งอื่น เช่น การติดเชื้อรา หรือเชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์

12.ขนที่อวัยวะเพศมีเหตุผลรองรับ “ขนบริเวณอวัยวะเพศมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์” และมีหน้าที่ในการกรองฝุ่น ละออง ไม่ให้เข้าถึงอวัยวะเพศได้ง่ายๆ

13.ร่างกายอาจสร้างมูกจากช่องคลอดได้ถึงวันละสองช้อนชา ในช่วงที่ไข่ตก “ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้น เป็นสาเหตุให้มูกจากช่องคลอดมีปริมาณมากขึ้น อาจมากถึงวันละหนึ่งช้อนชา” มูกจากช่องคลอดนี้จะเริ่มต้นจากบริเวณคอมดลูก จากนั้นจะเคลื่อนลงมาตามช่องคลอด และจะกวาดเซลล์ที่ตายแล้วออกมาด้วย และนี่คือวิธีที่ช่องคลอดทำความสะอาดตัวเอง ช่วงเวลาอื่นๆ ที่เหลือของเดือนเมื่อไม่ได้อยู่ในช่วงไข่ตกมูกจากช่องคลอดจะมีปริมาณลดลง เหลือเพียงวันละประมาณครึ่งช้อนชาเท่านั้น

14.จำเป็นต้องตรวจสภาพ ทุกๆ สามเดือนคุณควรใช้กระจกส่อง โดยแหวกอวัยวะออกแล้วตรวจดูว่ามีส่วนใดที่โตขึ้นผิดปกติ เจ็บผิดปกติ หรือมีสีผิดปกติบ้างหรือไม่ “แนวโน้มก็คือ คุณคงไม่เจออะไรที่ผิดปกติรุนแรง สิ่งที่เจออาจเป็นเหมือนสิวหรือผื่นที่เกิดเพราะมีดโกนขน” หากพบอะไรน่าสงสัยให้รีบไปพบนรีแพทย์ทันที

15.การคลอดลูกทำให้ช่องคลอดขยายใหญ่ขึ้นถึงห้าเท่า ปกติแล้วช่องคลอดจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว แต่เมื่อถึงเวลาคลอดลูก มันสามารถจะยืดออกไปได้ใหญ่กว่าเดิมจนเส้นผ่าศูนย์กลางอาจมีขนาดตั้งแต่ 4-5 นิ้ว ทั้งนี้ เพื่อให้มีขนาดใหญ่พอที่เด็กจะคลอดออกมาได้ แต่ไม่ต้องกลัว หลังคลอดประมาณหกสัปดาห์ ช่องคลอดก็จะหดตัวกลับ

16.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม สบู่หรือผงซักฟอกที่มีกลิ่นหอม อาจทำให้ผิวเนื้อบริเวณช่องคลอดระคายเคืองได้ “หากผิวเนื้อบริเวณนั้นสัมผัสเข้ากับสารเคมีบางอย่าง มันอาจจะระคายเคืองและเกิดอาการคันขึ้นได้” เพราะฉะนั้นคุณจึงควรทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอดโดยใช้น้ำเปล่า ไม่ใช้สบู่ นอกจากนี้ ยังควรเลือกใช้แต่กระดาษชำระที่มีสีขาว ตลอดจนแทมพอนและผงซักฟอกที่ไม่มีกลิ่นหอมอีกด้วย

17.ประจำเดือนไม่ได้ออกมากอย่างที่คุณคิด คุณอาจคิดว่าตอนประจำเดือนมาเดือนละครั้ง คุณเสียเลือดไปเป็นลิตร แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ในช่วงมีประจำเดือนแต่ละครั้ง คุณเสียเลือดไปเพียงแค่ประมาณสองสามช้อนโต๊ะเท่านั้น

18.ผู้หญิงบางคนไม่มีช่องคลอด เด็กผู้หญิงที่เกิดมาทุก 4,000-5,000 คน จะมีหนึ่งคนที่เกิดมาโดยไม่มีช่องคลอด ซึ่งถ้าเป็นดังนั้นบ่อยครั้งก็จะไม่มีมดลูกด้วย โชคดีที่ผู้หญิงเหล่านี้สามารถใช้เครื่องถ่างหรือสามารถผ่าตัดสร้างช่องคลอดได้ เมื่อได้รับการผ่าตัดแล้ว ผู้หญิงเหล่านี้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนกับผู้หญิงปกติ

19.ออกกำลังเป็นผลดี การออกกำลังสามารถช่วยรักษาช่องคลอดมีสุขภาพดีได้ “การฝึกขมิบกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดที่เรียกว่า Kegel Exercise จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งแรง กล้ามเนื้อส่วนนั้นคือกล้ามเนื้อที่ช่วยให้คุณกลั้นปัสสาวะหรือช่วยให้ถึงจุดไคลแม็กซ์” หากฝึกขมิบกล้ามเนื้อบ่อยๆ นานประมาณแค่สอง หรือสามเดือน คุณก็จะเห็นผล ช่องคลอดของคุณจะกระชับขึ้นและสามารถมีความสุขเพิ่มขึ้นในเวลามีเซ็กซ์

20.การมีกลิ่นเป็นเรื่องปกติ ช่องคลอดที่มีสุขภาพเป็นปกติจะมีกลิ่นเล็กน้อย ทั้งนี้ กลิ่นจะเป็นแบบไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขึ้นอยู่กับอาหารที่รับประทาน ขึ้นอยู่กับสารเคมีในร่างกาย หรือขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ในช่วงไหนของรอบวงจรประจำเดือน ของบางสิ่งอาจทำให้กลิ่นในช่องคลอดแรงขึ้นได้ เช่น การมีเหงื่อออกเยอะๆ กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง กลิ่นน้ำอสุจิของผู้ชายเมื่อมาผสมกับสารคัดหลั่งจากร่างกายคุณ ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงปรารถนาได้

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารู้หลักและความรู้เกี่ยวกับช่องคลอดแล้ว ผู้หญิงทุกคนต้องคิดอยู่เสมอว่าการมีเพศสัมพันธ์ต้องมีเมื่อถึงวัยที่สมควรก่อน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนต้องรักตัวเองให้มากๆ ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพราะถ้าหากว่าพลาดไปแล้วละก็ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมามากมาย ทั้งท้องก่อนแต่ง ท้องเมื่อไม่พร้อม ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญปัญหาดังกล่าวอาจะนำมาซึ่งปัญหาอาชฌากรรมได้ แล้วคนที่รักคุณที่สุดอย่างพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะตัวของคุณเองจะเสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น เพราะมันไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้...

----------------------------------------------------------------------
ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
http://www.technoinhome.com/vspc...a866cd13
http://www.tooads.com/59/adverti...B9%258C/
http://www.il.mahidol.ac.th/e-me...fits.htm

ต้องมาสวมบทเป็นสาวมือไวคอยฉกกระเป๋า ในภาพยนตร์ตลก สวย สิงห์ กระทิง แซ่บ ผลงานการกำกับของ ป๊อก-พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม แต่นางเอกสาว กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง ก็ยังยืนยันว่าหนังนั้นมีสาระให้ข้อคิดไม่น้อย

กบ เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้กบรับบทเป็น ดาว นักล้วงกระเป๋า ชอบต้มตุ๋นชาวบ้าน ฉลาด มีไหวพริบ ซึ่งกบคิดว่าถึงแม้ว่าตัวดาวเนี่ยจะเป็นคนที่ประกอบอาชีพที่ทุจริต แต่ว่าถ้าเรามองในมุมกลับกันแล้ว คนพวกนี้สามารถหนีเอาตัวรอดจากเหล่าผู้ร้ายได้ ถ้าใครได้ไปดูหนังเรื่องนี้จะเห็นว่าดาวเลือกเหยื่อที่จะล้วงกระเป๋าเป็นพวกอาเสี่ยที่ชอบหนีภรรยาตัวเองพาสาว ๆ สวย ๆ มาชอปปิงซื้อของ ถ้าคิดดูดี ๆ ก็สมควร พวกนี้จะได้รู้สำนึกคิดถึงเวลาที่จะต้องจ่ายเงินแล้ว กระเป๋าหายเขาจะทำยังไงกัน และอีกรายหนึ่งที่กบคิดว่าน่าจะเป็นตัวอย่างวิธีการเอาตัวรอดของผู้หญิง หนีจากภัยอันตรายได้ดีทีเดียว เพราะว่าเรื่องนี้ดาวจะต้องเข้าไปพัวพันกับพวกแก๊งโจรกรรม เพชร




มีอยู่ฉากหนึ่งที่ดาวจะถูกจับตัวไปแล้วพวกแก๊งโจรก็บังคับให้ดาวต้องเต้นโคโยตี้ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นจะขัดขืนไม่อยากทำ แต่ด้วยความที่ดาวเป็นคนที่มีไหวพริบสามารถแก้ไขเฉพาะหน้าเพื่อเอาตัวรอด ดาวยอมทำทุกอย่างเพื่อให้พวกโจรเชื่อใจและไว้ใจ เมื่อสบโอกาสดาวเห็นว่าพวกโจรไว้ใจและปล่อยไว้ลำพังจึงรีบวิ่งหนี


นี่เป็นแค่บางฉากเท่านั้นเพราะในเรื่องนี้ ตัวดาวเองค่อนข้างที่จะโดนตามล่าเยอะและถูกจับตัวบ่อย กบคิดว่าถ้าใครได้ไปชมโดยเฉพาะคุณผู้หญิงนอกจากจะได้เสียงหัวเราะแล้ว กบคิดว่าน่าจะได้ข้อคิดอะไรดี ๆ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เผื่อเจอเหตุการณ์อะไรที่ร้ายแรง เพราะอย่างน้อยจะได้รู้ไว้ว่าเวลาที่เหตุร้ายเกิดขึ้นกับตัวเราควรจะทำอย่างไร และอย่าตกใจจนร้อนรนทำอะไรไม่ถูก กบว่าเรื่องนี้เหมาะกับผู้หญิงมาก ๆ ค่ะ

ที่มาจากหนังสือพิมพ์
www.siamfighter.org/sfblog/?p=33
www.bloggang.com/mainblog.php?id=ninjutsu...

สอนหญิงทันเกม "ล้อเล่นหรือลวนลาม"


4 นิ้วจิ้มตาท่าป้องกันตัวแบบง่ายๆ

การถูกตีก้นเบาๆ แล้วบอกว่าหยอกล้อเล่น โอบบ่าแล้วถือโอกาสลูบไล้ต้นแขน
เมื่อปฏิเสธหรือสะบัดออกทันทีหรือทำท่าไม่พอใจ ก็ถูกสวนว่า “แค่หยอกล้อกันเล่นๆ ไม่เห็นต้องคิดมาก!!”

เส้นแบ่งอยู่ที่ตรงไหน ควรจะรับมืออย่างไร?....

คำถามเหล่านี้มีคำตอบโดย พญ.เรขา กลลดาเรืองไกร จิตแพทย์
กล่าวแนะนำสาวออฟฟิศ ที่กำลังอยู่ในสภาวะไม่แน่ใจระหว่างลวนลามกับการล้อเล่น

วิธีสังเกตแบบง่ายว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจเขาจะรีบขอโทษแบบจริงจังและรู้สึกผิด
แต่ถ้าหากตั้งใจก็จะพูดกระแนะกระแหนกลับ ยกตัวอย่างเช่น ถูกนิดถูกหน่อยไม่ได้เชียวหรือ???

"วิธีสังเกตง่ายๆ ถ้าถูกจับเอว ต้นขา หรือถูกลูบไล้ในที่ที่ไม่สมควร แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแค่การหยอกล้อแน่นอน
ควรจะรีบดึงร่างกายออกมาให้ห่าง แล้วแสดงอาการปฏิเสธให้ชัดเจน เช่น พูดด้วยน้ำเสียง ท่าทีจริงจัง ว่าไม่ชอบ
หากยังถูกกระทำซ้ำอีกควรปรึกษาผู้ใหญ่หรือแจ้งฝ่ายทรัพยากรมนุษย์

และหากหัวหน้าพูดจาในแนวทะลึ่ง ลามก หรือหวานเกินปกติ ให้ดูว่า
ปกติเจ้านายคนนี้พูดแบบนี้กับลูกน้องอื่นแบบเดียวกันหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ให้ระวังมากกว่าปกติ
ขณะเดียวกันก็ทดลองคุยดูว่าพอจะปรับพฤติกรรมได้ไหม เพื่อให้เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย" จิตแพทย์กล่าว

สำหรับในกรณีที่ไม่ระวังตัวการลวนลามที่เกินเลย ถึงขนาดมีการใช้กำลัง
ครูภูวศักดิ์ สุขศิริอารี และครูมวยไชยา บ้านภูวศักดิ์ แนะนำวิธีป้องกันตัวง่ายๆ ว่า

ถ้าฝ่ายชายก้มเข้ามาที่ซอกคอขณะที่อยู่ตรงหน้า
ให้ใช้สันมือด้านนิ้วก้อยกระแทกอย่างแรงเข้าที่ บริเวณข้อต่อฐานกะโหลก แล้วรีบวิ่งหนี
หรืออาจใช้นิ้วทั้ง 4 กางออกแล้วทิ่มลูกตาของฝ่ายชายอย่างแรง
สุดท้ายให้ใช้มือทั้งสองข้างตบบ้องหูด้วยความเร็วและแรง

ทั้งนี้คุณหมอก็ได้ให้ข้อคิดในทางตรงข้ามไว้อย่างน่าสนใจว่า
สำหรับหญิงสาวออฟฟิศที่มักจะถูกลวนลามในที่ทำงานบ่อยครั้ง จากหลายๆ คน
คงต้องหันกลับมาสำรวจตัวเองก่อนว่า ได้ทำอะไรที่เป็นการเชิญชวนให้ท่าโดยไม่ตั้งใจหรือไม่
เช่น การแต่งตัว วิธีพูดคุยหยอกล้อ เป็นต้น


ที่มา : http://www.komchadluek.net/
http://www.kik2you.com/webboard/...5B8%25A1
www.puansanid.com

วิธีการป้องกันตัว




สิ่งของใกล้ตัว ที่สามารถนำมาใช้ ในการป้องกันตัว
ปากกาแข็งๆ สามารถนำมาใช้ในการป้องกันตัว ด้วยการเพิ่มความเจ็บปวดแก่คนร้าย
นี้เป็นภาพตัวอย่าง หากถูกจับมือ วิธีป้องกันตัวโดยใช้ปากกาในการขัดกับมือคนร้าย เพื่อเพิ่มความเจ็บปวด ปากกาแข็งๆ ที่เข้าไปขัดกับเนื้อคน แล้วกดกระดูก จะสร้างความเจ็บปวดได้มาก





หากโดน Lock จากด้านหลัง ใช้ปากกากดเข้าไป ที่หลังมือระหว่างล่องกระดูก จะสร้างความเจ็บปวดได้มาก


ในส่วนกรณี ที่คนร้ายมีอาวุธ วิธีป้องกันตัวที่ดีที่สุด คือ วิ่งหนี (ถูกต้องแล้วครับ) แต่ถ้าหากมีการฝึกการป้องกันตัวมา ก็อาจจะใช้การเจรจาก่อน แล้วค่อยใช้ศิลปะป้องกันตัวที่เรียนมาในการป้องกันตัว ทั้งนี้ต้องฝึก ทางที่ดี วิ่งหนีดีกว่า
สุดท้ายฝากกันไว้ว่า อย่าพาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยง และ อย่าแต่งกายให้เสี่ยง เพื่อลดโอกาศในการเกิดอาชญากรรม
ที่มา:www.thaibodyguard.com/index.php?lay=show&ac...
www.thaibodyguard.com/
www.thaibodyguard.com/index.php?lay=show&ac=article&Id...

รักผัวต้องหมั่นตบ ผัวสลบ เราตบซ้ำ

กลับดึกไม่ต้องถาม ไม้หน้าสาม หวดทันใด

ตีหนึ่งพึ่งถึงบ้าน แพ่นกะบาล ให้หนำใจ

รักผัวไม่หวั่นไหว ซัดเข้าไป ไม่ยั้งมือ

หากผัวกลับบ้านดึก เตรียมเปิดศึก อย่ากลัวเกรง

รักผัวต้องข่มเหง ผัวเราเอง ใช่ผัวใคร......

รักผัวต้องเข้มแข็ง กระหน่ำแข้ง ซัดเข้าไป.......

รักผัวต้องหลากหลาย ทั้งมีดไม้ ให้ครบมือ........

รักผัวต้องหมั่นซ้อม โดดขึ้นคร่อม อย่าออมมือ......

รักผัวต้องฝึกปรือ หมั่นซ้อมมือ ให้แม่นยำ

ผัวล้มเราเหยียบซ้ำ เอาให้หน่ำ ตายคามือ

ซ้อมผัวให้คนลือ ว่าเราคือ ยอดเมียไทย

มีผัวบ่นจู้จี้ ร่อนทัพพี ให้หน้าหงาย

มีผัวเอาแต่ใจ บีบคอให้ ตายไปเลย

ตีหัวผัวแหว่งวิ่น แอนตาซิน จ่ายทุกแผล

รักผัวต้องดูแล เพราะผัวแก่ ใกล้ลงโลง

ถ้าผัวแอบมีกิ๊ก ไม้ตีพริก ฟาดเข้าไป

กระทืบ..ผัวให้ตาย อย่าปล่อยไว้ ให้อายคน

รักผัวต้องอดทน ผัวเป็นคน ด้านกว่าใคร

โดนตบจนหน้าหงาย ผัวยังไม่ สำนึกเลย

ผัวดีนั้นหายาก ต้องลำบาก ตรากตรำหา

รู้ไหมกว่าได้มา เหนื่อยเลือดตา แทบกระเด็น

รักผัวต้องใจเย็น เพราะผัวเป็น ของมีค่า

รักผัวต้องบูชา อย่าเที่ยวด่า ส่งเดชไป

ผัวด่า...เราต้องเงียบ ยกเจ๊เบียบ ให้ผัวไป

เผื่อฟลุ๊ค...ผัวช็อคตาย หาผัวใหม่ สุขใจเอย

ที่มา:http://pha.narak.com/topic.php?No=08821
http://www.zickr.com/book/story-25314
http://shopping.sanook.com/buyer...lity%3D1